วันจันทร์ที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

ระบบช่วงล่างรถยนต์

แบบคานแข็ง ระบบ leaf-spring








ระบบนี้ได้รับความนิยมจากชาวอเมริกันมานานเพราะไม่ยุ่งยากและมีราคาถูก แต่ก็ยังไม่ค่อยมั่นใจในคุณภาพยามขับขี่ เพลาล้อจะยึดติดกับ leaf springs และโช้คอัพ ซึ่งปกติจะติดตั้งตรงไปยังเพลา ปลายของแบบ leaf-spring จะถูกเชื่อมติดกับแชสซีโดยตรง คืออยู่ด้านบนโช้คอัพ ทำกันง่ายๆ ไม่อลังการครับแต่ถูก ข้อด้อยของระบบนี้คือเพลาจะเต็มไปด้วยของเหลวที่ไหลเยิ้มออกมา

แบบคานแข็ง ระบบ coil-spring





ระบบนี้มีความหลากหลายและปรับเปลี่ยนให้สมบูรณ์ดังที่ได้กล่าวแล้ว พื้นฐานในการคิดค้นก็เช่นเดียวกัน แต่ระบบ leaf-spring จะขยับทั้งสปริงของ coil-over-oil และชุดโช้คอัพ กล่าวคือแยกกันระหว่างแหนบกับโช้คอัพ เหตุผลเพราะแหนบจะขยับ เพลาจึงต้องการการสนับสนุนทางด้านข้างจาก control arm คู่ ที่ปลายด้านหน้าจะถูกยึดติดกับแชสซี ส่วนปลายด้านหลังติดกับเพลา ระบบ coil-spring มีขนาดกะทัดรัดกว่าแบบ coil-over-oil กล่าวคือสั้นและเล็กกว่าสปริง ดังนั้น ระบบนี้จึงใช้ พท. ใต้รถน้อย


ระบบ Beam Axle






ระบบนี้ใช้กับรถขับเคลื่อนล้อหน้า (ดังนั้นจึงเรียกได้อีกอย่างว่า dead beam) ระบบนี้ก็ทำงานง่ายเช่นกัน คานรับน้ำหนักจะพาดผ่านใต้ท้องรถ ติดกับล้อทั้งสองข้าง สปริงหรือโช้คหรือสตรัทจะติดอยู่บริเวณปลายทั้งสองข้างและบริเวณเบาะขึ้นไปยังระบบกันสะเทือนทั้งตัวรถและแชสซี ระบบ Beam Axle มีการติดตั้ง trailing arms สองตัวพร้อมมาด้วย ส่วน control arm เป็นแบบคานแข็ง ระบบ coil-spring ระบบนี้ออกแบบโดยผสมความหลากหลายไว้ด้วยกันซึ่งมีทั้งสปริงและโช้คอัพแยก และ coil-over-oil รวมอยู่ด้วย อีกสิ่งที่สามารถสังเกตได้คือระบบมี แทรคบาร์ หรือ แพนฮาร์ด บาร์ ระบบนี้จะมีแท่งเหล็กแนวทแยงมุมที่ที่ปลายด้านหนึ่งต่อกับโคนของอีกด้านของ control arm ดังรูป หรือบางครั้งเหล็กแนวทแยงจะอยู่ด้านบน ตรงข้าม spring mount (ซึ่งต้องใช้ พท. มากขึ้น) ก็เพื่อป้องกันการเคลื่อนที่ของคานรับน้ำหนัก ซึ่งเป็นสาเหตุของการเสียสภาพการบังคับรถ ระบบที่ใช้ผสมกันคือ เพลาบิด หรือ twist axle และมีแพนฮาร์ด บาร์ ในเพลาบิดนั้นมีการออกแบบเพลาให้หมุนไปอย่างช้าๆ จึงเป็นระบบกึ่งอิสระ ที่จะกระแทกไปกับล้อข้างหนึ่งจากการบิดของคาน การผสมผสานกันอีกอย่างหนึ่งของระบบคือมีการเบนของสปริงและแทนที่ด้วย torsion bar ที่ขับไปยังแชสซี และติดหรือแนบอยู่กับ leading edge ของ control arm คานประเภทนี้กำลังเป็นที่นิยมมากเพราะง่ายและต้นทุนต่ำ


แบบ 4-Bar

นำไปใช้ได้ทั้งรถที่ขับเคลื่อนล้อหน้าและหลัง ผมขอพูดถึงรถที่ขับเคลื่อนล้อหลังเพราะพบได้ทั่วไป ระบบกันสะเทือนแบบ 4-Bar มีสองแบบ คือ แบบสามเหลี่ยม (Triangulated) ดังภาพ










และแบบขนาน (parallel) ดังภาพ




แบบขนานออกแบบมาตามหลักการเคลื่อนที่อย่างต่อเนื่องแบบสี่เหลี่ยมรูปขนาน หรือ constant motion parallelogram ระบบแบบ 4-Bar จะอยู่ขนานไปกับพื้นดินและมุมของเฟืองจะไม่มีการเปลี่ยนแปลง แบบขนานเป็นการผสมผสานความได้เปรียบของแพนฮาร์ด บาร์เข้ามา นับว่าเป็นอุปกรณ์ที่ยอดเยี่ยมในการติดตั้งกับรถขับเคลื่อนล้อหลังเเพราะตำแหน่งการจัดวางถูกต้องเหมาะสม หากจะเปรียบเทียบระบบนี้ในรถบรรทุกที่ติดตั้งแบบ 4-link หรือ ladder-bar จะเห็นว่าเฟรมด้านหลังของแบบ 4-Bar จะมีการ ?กระดกขึ้น? น้อยกว่า การติดตั้งแบบ 4-Bar มีขนาดกะทัดรัด กล่าวคือเหมาะสำหรับรถยนต์และรถบรรทุกที่มีพื้นที่ขนาดใหญ่คุณจะพบการติดตั้งแบบนี้มากมายบนท้องถนนและรถคลาสสิกอเมริกัน
การออกแบบของแบบสามเหลี่ยมก็มีหลักการเช่นเดียวกัน แต่ด้านบนของคานทั้งสองจะเอียงเข้าด้านในและเชื่อมต่อกับตัวรถที่ด้านหลัง ใกล้กว่าตรงกลาง เมื่อตัดแพนฮาร์ด บาร์ ออกจึงกะทัดรัดขึ้น





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น